สูตร วาฟเฟิล-ขนมเขีย

เพื่อนๆ อาจเคยเห็น วาฟเฟิลขนมเขียว ราคาแพงๆ จากร้านขนมบ้างร้าน แต่เพื่อนๆ รู้ไหมว่าจริงๆ แล้วมันคือการเอาสูตนขนมบ้านๆ อย่าง “ขนมเขียว” หรือ อีกชื่อ “ขนมครกสิงคโปร์” มาผสมกับสูตรการทำวาฟเฟิลเท่านั้นเอง ซึ่งจริงๆ ก็ทำไม่ยากเลย แต่ก็ตั้งราคาซะแพงเชียว
วาฟเฟิล_ขนมเขียว_017
ดังนั้นวันนี้ Food Story จะเอาสูตรวิธีทำ “วาฟเฟิล-ขนมเขียว” มาฝาก เพื่อนๆ จะได้ลองไปทำทานกันที่บ้านรวมทั้งวิธีทำให้รูปร่างของมันสวยขึ้นอีกด้วย วิธีทำไม่ค่อยยากเลย ไปดู สูตร วาฟเฟิล-ขนมเขียว สไตล์ Food Story กันได้เลย!!!!

ส่วนผสมแห้ง:

  • แป้งทำขนมปัง 250 กรัม (2 ถ้วย)
  • แป้งมันสำปะหลัง 125 กรัม (1 ถ้วย)
  • น้ำตาลทราย 125 กรัม (1 ถ้วย)
  • ผงฟู 5 ชอนชา
  • เกลือ ½ ชอนชา

ส่วนผสมเปียก:

  • ไข่ไก่ขนาดใหญ่ 2 ฟอง
  • กลิ่นใบเตย 1 ชอนชา
  • สีเขียว 1 ชอนชา (ในสูตรนี้ใช้สีเขียวแอปเปิ้ล เพราะชอบสีสดๆ แต่จะใช้สีเขียวใบเตย หรือ สีอะไรก็ได้ เพราะไม่มีผลกับรสชาติ)
  • กะทิ 500 มิลลิลิตร
  • น้ำมันมะพร้าว 150 มิลลิลิตร
  • กลิ่นวานิลลา 1/2 ช้อนชา

ของอย่างอื่นที่ต้องใช้:

  • เครื่องผสมอาหาร (ถ้าไม่มีใช้ชามผสมอาหาร กับ ที่ตีไข่ตะกร้อ ก็ได้)
  • เตาวาฟเฟิล แบบ ก้นลึก (รูปวงกลม หรือ สี่เหลี่ยมก็ได้ ในสูตรใช้แบบกลม แต่ถ้าใช้แบบสี่เหลี่ยมจะสามารถทำรูปร่างแบบที่ขายในร้านได้)
  • น้ำมันพืช + แปรงกันความร้อน ( เอาไว้ทานน้ำมันบนเตา)
  • ที่คีบอาหารกันความร้อน
  • ขวดซอสพลาสติกแบบมีหัวบีบ
  • **เหยือกขนาดใหญ่ เอาไว้เทส่วนผสมใส่ขวด (**ไม่ต้องใช้ก็ได้)
  • จาน
  • ชามเล็ก (ไม่ต้องใช้ก็ได้)

วิธีทำ:

1) นำ ส่วนผสมแห้ง และ ส่วนผสมเปียก มาตีผสมกันด้วยเครื่องผสมอาหารจนเป็นเนื้อเดียวกัน (ถ้าไม่มีเครื่องผสมอาหาร ให้ใช้ ชามผสมอาหาร กับ ที่ตีไข่ตะกร้อ ผสม ส่วนผสมแห้ง และ ส่วนผสมเปียก แยกกันก่อน แล้วค่อยทำส่วนผสม ส่วนผสมแห้ง และ ส่วนผสมเปียก มาตีผสมกันอีกทีจนเป็นเนื้อเดียวกัน)
2) นำส่วนผสมที่ได้มาเทใส่ เหยือกขนาดใหญ่ ก่อนที่จะเทใส่ ขวดซอสพลาสติกแบบมีหัวบีบ อีกทีเพื่อความเรียบร้อย (ถ้าขี้เกียจจะเทใส่ ขวดซอสพลาสติกแบบมีหัวบีบ เลยก็ได้ แต่อาจเลอะเทอะหน่อย)
3) ตั้งเตาวาฟเฟิล ที่ความร้อนสูงสุด แล้วใช้ แปรงกันความร้อน ทา น้ำมันพืช บางๆ ให้ทั่วเตา
4) เมื่อ เตาวาฟเฟิล ร้อนได้ที่ (เมื่อเราเห็นน้ำมันเริ่มเดือด) ให้บีบส่วนผสมที่อยู่ใน ขวดซอสพลาสติกแบบมีหัวบีบ ไปในร่องเตาวาฟเฟิล บีบให้ทั่วร่องประมาณ 1/3 ของความลึกของร่อง
5) เมื่อบีบทั่วแล้วให้บิดฝาเตาวาฟเฟิลจนวาฟเฟิลสุกแล้วค่อยเปิดออก (ดูที่ไฟของเตา เตาทุกรุ่นไม่เหมือนกัน แต่สำหรับเตาในสูตรที่ไฟจะเป็นสีเขียวเมื่อสุก)
6) ใช้ที่คีบอาหารกันความร้อนค่อยๆ คีบวาฟเฟิล-ขนมเขียวออกจากเตา แล้วนำมาวางไว้บนจานแป๊บนึงจนมันแข็งตัวแล้วค่อยทานได้ ถ้าเราไม่รอให้วาฟเฟิล-ขนมเขียวแข็งตัวก่อนมันจะไม่กรอบ และ ไม่อร่อย
7) ขั้นตอนนี้ไม่ต้องทำก็ได้: วิธีหนึ่งที่เราจะทำให้ วาฟเฟิล-ขนมเขียว ดูสวย และ น่าสนใจมากขึ้น เราสามารถนำวาฟเฟิล-ขนมเขียวที่เสร็จใหม่ๆ นิ่มๆ มาวางพิงกับชามที่วางอยู่บนจานให้เป็นชั้นๆ แบบสลับฟันปลา (เพื่อมีอากาศถ่ายเท) สิ่งที่เราได้คือ วาฟเฟิล-ขนมเขียว นิ่มๆ จะเริ่มแข็งตัวในรูปสรงโค้งๆ ตามชาม ซึ่งเมื่อนำไปเสิร์ฟก็จะดูสวยขึ้นกว่าไม่ทำอะไรเลย ทานได้!!!!

หมายเหตุ:

  • เราอาจลองขยับวาฟเฟิล-ขนมเขียว นิ่มๆ เป็นรูปสรงต่างๆ ก่อนที่มันจะแข็งตัวตามใจชอบดูก็ได้ หรือ อาจลองใช้เตาวาฟเฟิล รูปทรงอื่นๆ ดูด้วยก็ได้
  • จะใช้แป้งอเนกประสงค์ แทน แป้งทำขนมปัง แต่การใช้แป้งอเนกประสงค์จะทำให้วาฟเฟิล-ขนมเขียวไม่มีความเหนียวเท่ากับการใช้แป้งทำขนมปัง
เครดิต จาก http://foodstorythai.com/สูตร-วาฟเฟิล-ขนมเขียว/

ความคิดเห็น